Website กับ Web application ต่างกันอย่างไร

Website กับ Web application ต่างกันอย่างไร

Website กับ Web application ต่างกันอย่างไร

ก่อนหน้านี้เราคงจะคุ้นเคยกับการใช้งานเว็บไซต์กันอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะทำการค้นหาข้อมูลหรือใช้งานเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันเทคโนโลยีต่างๆ  ได้มีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเว็บไซต์ปรกติก็ถูกพัฒนามาเป็นเว็บแอป หรือ Web Application ซึ่งหลายๆ คนอาจจะยังงงๆ ว่ามันต่างกันอย่างไร ทั้งๆ ที่ลักษณะการทำงานก็คล้ายกัน วันนี้เราจะพาไปดูความต่างของ Web Application และ Website กันค่ะ

มารู้จัก Website  และ Web Application

       ก่อนที่เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของ เว็บไซต์ (Website) และ เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) เรามาดูความหมายของทั้งคู่กันก่อนเพื่อที่จะได้เข้าใจกันมากขึ้น

 

  •   เว็บไซต์ (Website) คือหน้าเว็บเพจหลายหน้าที่นำเสนอข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ตโดยสามารถใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์  มีการออกแบบที่สวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการนำเสนอข้อมูล ข่าวสารต่างๆ ของหน่วยงาน บริษัทฯ  หรือผลิตภัณท์สินค้าต่างๆ ซึ่งมักจะเป็นข้อมูลที่ผู้อ่านสามารถดู หรืออ่านข้อมูลได้เท่านั้นไม่สามารถจัดการเนื้อหาต่างๆ  ได้
  •   และ เว็บแอปพลิเคชัน (Web Application) คือ แอปพลิเคชันที่ถูกสามารถเรียกใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้โดยไม่ต้องติดตั้งแอปฯ  หรือโหลดโปรแกรมใดๆ เพียงแค่มีอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ก็สามารถใช้งานได้ทันที นอกจากนี้มีความรวดเร็วในการเข้าถึงช้อมูล สามารถแก้ไขข้อมูลได้แบบ Real Time และสะดวกในการใช้งาน  อาทิ Google drive, one drive, Google doc, Google Sheet, Canva, เว็บแอป แปลภาษา, เว็บแอปเครื่องคิดเลข, ระบบขายของออนไลน์ และ ระบบจองตั๋วเดินทาง  เป็นต้น

ความแตกต่างระหว่าง Website กับ Web application

         จริงๆ แล้วเราแทบจะดูไม่ออกเลยว่าทั้ง Website  และ Web Application ต่างกันอย่างไร นั่นเพราะทั้งสองอย่างมีส่วนที่ค่อนข้างคล้ายหลายประการ  ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บเบราว์เซอร์ เหมือนกัน แต่ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ เว็บแอป นั้นถูกออกแบบให้สามารถตอบโต้กับผู้ใช้งานได้  ซึ่งผู้ใช้งานสามารถจัดการ หรือแก้ไขข้อมูลได้ตลอดเวลา  ในขณะที่เว็บไซต์จะมาในรูปแบบของการให้ข้อมูลและสื่อสารกับผู้ใช้งานเพียงด้านเดียว   ไม่มีฟีเจอร์ที่ลูกค้าสามารถสามารถแก้ไข  หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้

 

         อย่างไรก็ตามทั้ง  Website และ Web application ต่างก็มีประโยชน์ทั้งคู่ แต่เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น   คนรุ่นใหม่ไม่เพียงแต่จะใช้สมาร์ทโฟนในการรับข้อมูลข่าวสาร และความบันเทิงเท่านั้น ยังรวมถึงการทำงานผ่านมือถือ และนิยมทำธุรกรรมต่างๆ   เช่นซื้อของ,จองตั๋วการเดินทาง,จองห้องพัก, ซื้อของออนไลน์ อีกด้วย จึงทำให้ผู้ประกอบการต่างๆ  หันมาพัฒนาเว็บไซต์ของตัวเองให้กลายเป็นเว็บแอป เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยในเรื่องของความสะดวก รวดเร็วแล้ว  ยังเป็นการเพิ่มช่องทางการขายนั่นเอง  

Related Posts
Leave a Reply

Your email address will not be published.Required fields are marked *